คืนรถตามสัญญาเช่าซื้อไม่ต้องจ่ายค่าส่วนต่าง

ปัญหานี้มีสอบถามกันมากช่วง 1 ปีก่อนหน้านี้ต่อเนื่องมาตลอดว่า จะทำอย่างไรดีผ่อนรถไม่ไหวแล้วจะขอคืนรถผู้ให้เช่าซื้อไม่ยอมรับคืน หรือถ้ารับคืนก็จะต้องเสียค่าส่วนต่างค่าขาดราคาจากค่าเช่าซื้ออีกไหม และเมื่อผู้เช่าซื้อผิดนัดสามงวดติดต่อกัน หรือมากกว่า แต่ผู้ให้เช่าซื้อไม่ได้บอกเลิกสัญญา หรือมีหนังสือบอกเลิกสัญญามาแล้ว แต่ยังไม่ครบกำหนดเวลาที่จะเลิกสัญญา  อย่างนี้เกิดมีทีมยึดรถมาขอรับรถคืนไปก่อน หรือมายึดรถก่อนและผู้เช่าซื้อก็ไม่ขัดขวาง ยินยอมให้เอารถคืนไปโดยดี จะต้องรับผิดส่วนต่างดังกล่าวอีกหรือไม่   

หลักกฎหมาย  ป.พ.พ. การบอกเลิกสัญญา ผลของการเลิกสัญญา ผู้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญา มาตรา ๓๘๗, ๓๙๑, ๕๗๓

            มาตรา ๓๘๗  ถ้าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งไม่ชำระหนี้ อีกฝ่ายหนึ่งจะกำหนดระยะเวลาพอสมควร แล้วบอกกล่าวให้ฝ่ายนั้นชำระหนี้ภายในระยะเวลานั้นก็ได้ ถ้าและฝ่ายนั้นไม่ชำระหนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนด อีกฝ่ายหนึ่งจะเลิกสัญญาเสียก็ได้

            มาตรา ๓๙๑  เมื่อคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้ว คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม แต่ทั้งนี้จะให้เป็นที่เสื่อมเสียแก่สิทธิของบุคคลภายนอกหาได้ไม่

            มาตรา ๕๗๓  ผู้เช่าจะบอกเลิกสัญญาในเวลาใดเวลาหนึ่งก็ได้ ด้วยส่งมอบทรัพย์สินกลับคืนให้แก่เจ้าของโดยเสียค่าใช้จ่ายของตนเอง      

            คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๓๓๔๓/๒๕๖๓   บริษัท ส. (โจทก์) นาย ส.กับพวก(จำเลย)

            สัญญาเช่าซื้อมีข้อ  กำหนดว่า  “ผู้เช่าผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้องวดใดงวดหนึ่ง เจ้าของจะบอกกล่าวเป็นหนังสือให้ผู้เช่าชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระภายในเวลาอย่างน้อย ๓๐ วัน นับแต่วันที่ผู้เช่าได้รับหนังสือ หากผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่าซื้อพร้อมภาษีมูลค่าเพิ่ม เบี้ยปรับ ค่าใช้จ่าย และเงินอื่นใดที่ต้องชำระให้ครบจำนวนทันงวด ณ วันที่ชำระ ให้ถือว่าสัญญานี้สิ้นสุดลงทันที”  

จำเลยที่ ๑ ผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อตั้งแต่งวดวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๙  โดยโจทก์มีหนังสือลงวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๙ ทวงถามให้จำเลยที่ ๑ ชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระตั้งแต่งวดวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๙ เบี้ยปรับและค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงถามภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับดังกล่าว หากไม่ชำระภายในกำหนดโจทก์ขอถือเอาหนังสือฉบับนี้เป็นการบอกเลิกสัญญา  

โดยจำเลยที่ ๑ ได้รับหนังสือฉบับดังกล่าววันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๙ ซึ่งจะครบกำหนด ๓๐ วัน ในวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๙  แต่วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๙ โจทก์กลับเข้าครอบครองรถแทรกเตอร์ในขณะที่สัญญาเช่าซื้อยังไม่เลิกกัน

ส่วนจำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นฝ่ายผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาด้วยการส่งมอบทรัพย์สินกลับคืนตาม ป.พ.พ.มาตรา ๕๗๓ ก็ยินยอมให้โจทก์กลับเข้าครอบครองรถแทรกเตอร์โดยมิได้โต้แย้งคัดค้าน

พฤติการณ์ถือว่าโจทก์และจำเลยที่ ๑ สมัครใจเลิกสัญญาต่อกันโดยปริยาย โจทก์และจำเลยที่ ๑ จึงต้องกลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิมตาม ป.พ.พ.มาตรา ๓๙๑ วรรคหนึ่ง และเมื่อเป็นการเลิกสัญญากันด้วยเหตุอื่น มิใช่การเลิกสัญญาเพราะเหตุที่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญา คู่สัญญาจึงไม่มีสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาอีกต่อไป โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าขาดราคาจากค่าเช่าซื้อโดยอาศัยข้อสัญญาตามสัญญาเช่าซื้อที่ระงับไปแล้วได้ คงมีสิทธิเรียกให้จำเลยที่ ๑ ชำระเงินจากการใช้รถแทรกเตอร์ที่เช่าซื้อในระหว่างที่ยังคงครอบครองใช้สอยอยู่ตามควรค่าแห่งการนั้นๆ ตามมาตรา ๓๙๑ วรรคสาม