แอบอัดเสียงใช้เป็นพยานในศาลได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4674/2543

  • การที่จำเลยอ้างส่งเทปบันทึกเสียงซึ่งบันทึกการสนทนา ระหว่างโจทก์และจำเลยพร้อมเอกสารที่ถอดข้อความ บันทึกการสนทนาเป็นพยานหลักฐานนั้น นับเป็นพยานหลักฐานซึ่งเกี่ยวถึงข้อเท็จจริงที่จำเลยจะนำสืบ ในประเด็นเรื่องการใช้เงิน
  • แม้โจทก์จะไม่ทราบว่ามีการบันทึกเสียงไว้ก็ตาม แต่เมื่อเสียงที่ปรากฏเป็นเสียงของโจทก์จริง และการบันทึกเสียงดังกล่าว เกิดจากการกระทำของจำเลยซึ่งเป็นคู่สนทนาอีกฝ่ายหนึ่ง เป็นผู้บันทึกเสียงไว้ ซึ่งปกติจำเลยย่อมมีสิทธิ์ ที่จะเบิกความอ้างถึงการสนทนาในครั้งนั้นได้อยู่แล้ว
  • จึงไม่ถือว่า เทปบันทึกเสียงเอกสารที่ข้อความนั้น เป็นการบันทึกถ้อยคำซึ่งเกิดจากการกระทำโดยไม่ชอบ อาจจะต้องห้ามมิให้รับฟังเป็นพยานหลักฐาน ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ. ศ. 2540 มาตรา 243 วรรค 2